ReadyPlanet.com
dot
ผลิตภัณฑ์ของเรา THAIMEX CO.,LTD.
dot
dot
คุณภาพของผลิตภัณฑ์
dot
bulletเอกสารทางวิชาการ
dot
เคมีภัณฑ์
dot
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรค Ampholyt 51
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและขจัดกลิ่น Bescon P-A
dot
เครื่องพ่นสารเคมี
dot
bulletเครื่องพ่นหมอกควัน Swingfog
bulletเครื่องพ่นฝอยละออง ULV Fontan
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองแบบติดตั้งรถยนต์ Fontan Mobilstar-E
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองระบบไฟฟ้า Bio jet
bulletหัวพ่นน้ำยา Bio spray
dot
เครื่องมือวัด
dot
bulletเครื่องวัดความหนาสี DeFelsko, USA
bulletเครื่องวัดความหนาสี Phynix, Germany
bulletเครื่องวัดความเงาสี Zehntner, Switzerland
bulletเครื่องวัดความชื้น Doser, Germany
dot
วิธีการสั่งซื้อ
dot
bulletติดต่อสำนักงาน
bulletติดต่อพนักงานขาย
dot
รับสมัครงาน
dot
dot
สาระน่ารู้
dot
bulletTego 51 กับการผลิตยา และเครื่องสำอาง
bulletสุขวิทยาอนามัยของอุตสาหกรรมน้ำนม และผลิตภัณฑ์จากนม
bulletฟาร์มโคนม
bulletสุขวิทยาอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้ง
bulletอุตสาหกรรมผลิตอาหาร
bulletอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่ม
bulletไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
bulletอุตสาหกรรมอาหารทะเล
bulletคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทดสอบประสิทธิภาพการใช้ Ampholyt 51
bulletการใช้ Ampholyt 51 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหาโรคเต้านมอักเสบ
bulletการใช้Ampholyt 51 ช่วยลดการเหี่ยวและเน่าเปื่อยของผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์
bulletสหกรณ์การเกษตรคุ้มเจริญ
bullet โรคไข้หวัดนก
bullet โรคไข้หวัดใหญ่




การใช้ Ampholyt 51 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหาโรคเต้านมอักเสบ

 

 

 

 

 

 

 

 

การทดสอบประสิทธิภาพการใช้ Ampholyt 51

ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหาโรคเต้านมอักเสบในโคนม

Testing the efficiency of  Ampholyt  51

for destroying bacteria causing mastitis in dairy cows .

-----------------------------------

 

หลักการและเหตุผล

                ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ Ampholyt 51 ซึ่งได้รับการยอมรับในด้านประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อในห้องปฏิบัติการ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ บริษัทจึงมีความประสงค์ที่จะทดสอบว่าน้ำยา Ampholyt 51

มีประสิทธิภาพในการใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเต้านมอักเสบในโคนมเพียงใด

 

วัตถุประสงค์

                เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อ Ampholyt 51 ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค

เต้านมอักเสบในโคนม

 

อุปกรณ์และวิธีการ

                ใช้โคที่กำลังรีดนมจำนวน 20 ตัว แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ตัว ทำความสะอาดเต้านมโดยการใช้น้ำอาบให้ทั่วร่างกายและบริเวณเต้านมตามวิธีการปกติของฟาร์ม หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้วจะใช้พัดลมเป่าลมไปที่ร่างกายโคนมและเต้านมประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ร่างกายโคและบริเวณหัวนมแห้ง หลังจากนั้นนำโคนมเข้ามาภายในโรงรีด ทำความสะอาดหัวนมทั้ง 4 ด้วย disposable tissue โดยใช้ tissue 1 แผ่นต่อ 1 หัวนม หลังจากนั้นเลือกสุ่มหัวนมเพื่อใช้น้ำยาจุ่มหัวนมแต่ละหัว โดยมีการจดบันทึกว่าหัวนมใดใช้น้ำยาสูตรใดในการจุ่มหัวนม ก่อนจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแต่ละชนิด จะใช้ขวดขนาด 50 ซีซี ที่บรรจุน้ำเกลือความเข้มข้นจุ่มหัวนมทุกหัวก่อนที่จะทำการจุ่มด้วยน้ำยาชนิดต่าง ๆ หลังจุ่มหัวนมด้วยน้ำเกลือแล้วหัวนมจะถูกเช็ดด้วย disposable tissue เพื่อกำจัดน้ำเกลือออก  ทำการบันทึกขวดเก็บตัวอย่างให้ตรงกับหมายเลขโคและหัวนมที่เก็บ หลังจากนั้น ทำการจุ่มหัวนมแต่ละหัวด้วยน้ำยาจุ่มหัวนมรวม 4 ชนิด โดยหัวนม  1 หัวจะใช้น้ำยา 1 ชนิด                

ชนิดที่ 1 น้ำยา Ampholyt 51  จำนวน 2 ส่วน รวมกับน้ำกลั่น 93 ส่วนและกลีเซอรีน 5 ส่วน

                                ชนิดที่ 2 น้ำยา  Ampholyt 51 จำนวน 4 ส่วน รวมกับน้ำกลั่น 91 ส่วนและกลีเซอรีน 5 ส่วน

                                ชนิดที่ 3 น้ำยาจุ่มเต้านม A

                                ชนิดที่  4 น้ำยาจุ่มเต้านม B

 

หัวนมของโคนมทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับการจุ่มน้ำยาทั้ง 4 ชนิด โดยกลุ่มที่ 1 จะปล่อยทิ้งไว้นาน 15 วินาที

และจะถูกเช็ดออกโดย disposable tissue กลุ่มที่ 2 จะปล่อยทิ้งไว้นาน 30 วินาที แล้วจึงถูกเช็ดออกด้วย disposable tissue หลังจากน้ำยาที่จุ่มหัวนมทุกหัวถูกเช็ดออกจนหมดแล้ว ใช้ขวดบรรจุน้ำเกลือทำการจุ่มหัวนมตามวิธีการเดียวกับที่เก็บก่อนจุ่มหัวนมด้วยน้ำยา และทำการบันทึกหมายเลขขวดเช่นเดียวกัน

                ขวดน้ำเกลือทั้งหมดจะถูกส่งไปตรวจหาปริมาณของเชื้อแบคทีเรีย (Total plate count) และแยกชนิดของเชื้อที่ห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลปศุสัตว์ ศูนย์ฝึกนิสิต คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเก็บ ข้อมูลของปริมาณแบคทีเรียและชนิดของแบคทีเรียจะนำมาเปรียบเทียบกันระหว่างก่อนและหลังการจุ่มด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแต่ละชนิด

 

การวิเคราะห์ทางสถิติ

                ข้อมูลที่ได้จะนำมาวิเคราะห์หาความแตกต่างโดยวิธี Analysis of variance

 

ผลการศึกษา

 

ตารางที่ 1 แสดงชนิดของแบคทีเรีย จำนวนและเปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่ตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย

ชนิดของแบคทีเรีย

จำนวนตัวอย่างที่ส่ง    ตรวจ

จำนวนตัวอย่างที่ตรวจพบ

%  ตัวอย่างที่ตรวจพบ

Staphylococcus

160

155

95

Bacillus

160

78

48.8

Corynebacterium

160

48

30

Enterobacter

160

24

15

Pseudomonas

160

22

13.8

Klebsiella

160

16

10

Acinetobacter

160

12

7.5

Streptococcus

160

12

7.5

E.coli

160

10

6.3

 

                ตารางที่ 1 แสดงตัวอย่างทั้งหมดที่ส่งไปตรวจ พบการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียทั้งกลุ่มที่เป็น

gram positive  ได้แก่  Bacillus, Corynebacterium,  Staphylococcus และ Streptococcus และ gram  negative ได้แก่ Enterobacter, Pseudomonas, Klebsiella, Acinetobacter และ E.coli โดย Staphylococcus ตรวจพบมากที่สุด โดยตรวจพบถึง  155 ตัวอย่าง (95%)  รองลงไป ได้แก่ Bacillus Corynebacterium,  Enterobacter,

Pseudomonas, Klebsiella, Acinetobacter, Streptococcus ซึ่งตรวจพบได้เท่ากับ 78 48 24 22 16 12  และ 12   ตัวอย่าง ตามลำดับ โดยเชื้อแบคทีเรียที่ตรวจพบน้อยที่สุดคือ E.coli ที่ตรวจพบเพียง 6.3 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างทั้งหมด

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบจำนวนตัวอย่างที่ตรวจพบแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ระหว่างก่อนจุ่มและหลังจุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อ

 


 

                                                                                       จำนวนตัวอย่างที่ตรวจพบแบคทีเรีย

 

ก่อนจุ่ม

หลังจุ่ม

Staphylococcus

155

18

Bacillus

78

5

Corynebacterium

48

0

Enterobacter

24

0

Pseudomonas

22

0

Klebsiella

16

2

Acinetobacter

12

0

Streptococcus

12

0

E.coli

10

0

 

                จำนวนตัวอย่างที่ตรวจพบเชื้อแบคทีเรียก่อนจุ่มและหลังจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาจุ่มหัวนมทั้ง 4 ชนิด แสดงไว้ในตารางที่ 2 พบว่า หลังจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาทั้ง 4 ชนิด พบว่าน้ำยาทั้ง 4 ชนิด มีความสามารถในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี โดยพบว่า Staphylococcus ยังตรวจพบมากเป็นอันดับที่ 1 คือตรวจพบเป็นจำนวน 18 ตัวอย่าง รองลงไปคือ Bacillus และ Klebsiella ไม่พบ Corynebacterium, Enterobacter, Pseudomonas, Acinetobacter, Streptococcus และ E.coli  แสดงให้เห็นว่าน้ำยาฆ่าเชื้อทั้ง 4 ชนิด มีประสิทธิภาพเท่ากันในการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย 6 ชนิดคือ  Corynebacterium, Enterobacter, Pseudomonas, Acinetobacter, Streptococcus และ E. coli ซึ่งแบคทีเรียทั้ง 6 ชนิด เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเต้านมอักเสบในโคนม

ปริมาณของแบคทีเรียที่ตรวจพบทั้งก่อนและหลังการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 15 วินาที แสดงไว้ในตารางที่ 3 และรูปที่ 1 พบว่าน้ำยาฆ่าเชื้อทั้ง 4 ชนิด มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี การจุ่มหัวนมเป็นเวลา 15 วินาที ด้วยน้ำยา Tego 2% สามารถลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียลงได้ 91.3% ในขณะที่น้ำยา 4% Tego  น้ำยา A น้ำยา B สามารถลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียได้เท่ากัน

 

 

 

 

 

 

ตารางที่ 3 แสดงปริมาณของแบคทีเรียที่ตรวจพบเมื่อใช้น้ำยาจุ่มหัวนมชนิดต่างๆ จุ่มหัวนมเป็นเวลา

15 วินาที (x106 cfu/ml) (mean±SD)

                                                                                                 

                                                    ก่อนจุ่ม                                       หลังจุ่ม                 

2% Tego

1.05±0.64

                0.091±0.07

4% Tego

1.23±0.69

0.032±0.039

น้ำยา A

1.55±0.94

0.018±0.017

น้ำยา B

1.28±0.89

0.038±0.038

ค่าเฉลี่ย

1.28±0.87

0.045±0.047

กข ในแถวเดียวกันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.01)

 

รูปที่ 1 เปรียบเทียบปริมาณเชื้อแบคทีเรียก่อนและหลังการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและปล่อยทิ้งให้สัมผัส

หัวนมนาน 15 วินาที

T1 = 2% Tego,   T2  4% Tego,  T3 = น้ำยา A,   T4 = น้ำยา B

PIT = Predipping, POT = Postdipping

 

97.4, 98.8 และ 97.0 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของน้ำยาทั้ง 4 ชนิด แต่มีแนวโน้มว่าน้ำยา Tego 2% จะมีประสิทธิภาพต่ำที่สุดเมื่อถูกใช้

จุ่มหัวนมแล้วปล่อยให้น้ำยามีโอกาสสัมผัสเชื้อนานเพียง 15 วินาที

ปริมาณของแบคทีเรียที่ตรวจพบทั้งก่อนและหลังการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 30 วินาที แสดงไว้ในตารางที่ 4 และรูปที่ 2 สำหรับการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาทั้ง 4 ชนิด แล้วปล่อยทิ้งไว้นานเป็นเวลา 30 วินาที ก่อนที่จะเช็ดออกพบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการลดปริมาณของแบคทีเรียได้ดีกว่าการจุ่มและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 15 วินาที โดยน้ำยาทั้ง 4 ชนิด มีประสิทธิภาพใน

 

ตารางที่ 4 แสดงปริมาณของแบคทีเรียที่ตรวจพบเมื่อใช้น้ำยาจุ่มหัวนมชนิดต่าง ๆ จุ่มหัวนมเป็นเวลา 30 วินาที (x106 cfu/ml) (mean±SD)

                                                                                                

                                                    ก่อนจุ่ม                                     หลังจุ่ม                 

2% Tego

1.18±0.55

0.0008±0.0004

4% Tego

0.97±0.71

0.0007±0.0006

น้ำยา A

3.46±2.26

  0.001±0.0009

น้ำยา B

1.97±1.261

0.002±0.001

ค่าเฉลี่ย

1.90±1.47

 0.001±0.0008

กข ในแถวเดียวกันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001)

 

รูปที่ 2 เปรียบเทียบปริมาณเชื้อแบคทีเรียก่อนและหลังการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและปล่อยทิ้งให้สัมผัส

หัวนมนาน 30 วินาที

T5 = 2% Tego, T6 = 4% Tego, T7 = น้ำยา A, T8 = น้ำยา B

PIT = Predipping, POT = Postdipping

 

การฆ่าเชื้อใกล้เคียงกันเมื่อจุ่มหัวนมและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน 30 วินาที โดยสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่า 99%

                ปริมาณของแบคทีเรียและกราฟเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียของน้ำยาทั้ง 4 ชนิดแสดงค่าเป็น log10 ของ cfu/ml แสดงไว้ในตารางที่ 5 และรูปที่ 3

 

 

 

 

ตารางที่ 5 แสดงปริมาณของแบคทีเรียที่ตรวจพบเมื่อใช้น้ำยาจุ่มหัวนมชนิดต่าง ๆ จุ่มหัวนมเป็นเวลา 15 และ 30 วินาที (แสดงเป็นค่า log 10 cfu/ml) (mean±SD)

 


 

                                                                                         ปริมาณแบคทีเรียที่ตรวจพบ

                                                             15 วินาที                                            30  วินาที

                                           ก่อนจุ่ม                     หลังจุ่ม                  ก่อนจุ่ม               หลังจุ่ม

2% Tego

5.77±0.47

4.61±0.40

5.95±0.24

2.74±0.29

4% Tego

5.89±0.36

3.87±0.48

5.67±0.47

2.77±0.26

น้ำยา A

5.89±0.51

3.78±0.61

6.34±0.34

2.84±0.26

น้ำยา B

5.60±0.74

4.14±0.39

5.99±0.50

3.03±0.33

ค่าเฉลี่ย

5.79±0.56

4.10±0.62

5.99±0.46

2.85±0.33

 

กข ในแถวเดียวกันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)

กค ในแถวเดียวกันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.01)

 

รูปที่ 3 เปรียบเทียบปริมาณเชื้อแบคทีเรียก่อนและหลังการจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและปล่อยทิ้งไว้ให้สัมผัสหัวนม 15 และ 30 วินาที (log 10 cfu/ml)

T1 = 2% Tego 15 วินาที  T2  4% Tego 15 วินาที T3 = น้ำยา A 15 วินาที  T4 = น้ำยา B 15 วินาที

T5 = 2% Tego 30 วินาที  T6  4% Tego 30 วินาที T7 = น้ำยา A 30 วินาที  T8 = น้ำยา B 30 วินาที

PIT = Predipping, POT = Postdipping

 

สรุป

                ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าน้ำยาฆ่าเชื้อ Tego 51 ที่ระดับความเข้มข้น 2% และ 4% มีประสิทธิภาพในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียทั้งหมดที่เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคเต้านมอักเสบในโคนมและสามารถตรวจพบได้เสมอในบริเวณหัวนมของโคนมที่เลี้ยงในระบบปล่อยของฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งที่มีการจัดการเต้านมค่อนข้างดี ประสิทธิภาพในการลดจำนวนแบคทีเรียของน้ำยา Tego 51 ที่ระดับความเข้มข้น 2% และ 4% จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อปล่อยให้น้ำยามีโอกาสสัมผัสหัวนมนานขึ้น โดยน้ำยา 2% และ 4% Tego 51 จะสามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อน้ำยาทั้ง 2 ชนิด ได้สัมผัสหัวนมเพิ่มจาก 15 วินาทีเป็น 30 วินาที น้ำยา Tego 51 ที่ระดับความเข้มข้นทั้ง 2 ระดับให้ผลไม่แตกต่างจากน้ำยาอีก 2 ชนิด ในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียทั้งหมดเมื่อปล่อยให้น้ำยาทั้ง 4 ชนิด มีโอกาสสัมผัสหัวนมนาน 30 วินาที อย่างไรก็ตาม การจัดการที่เต้านมในโรงรีดของฟาร์มแต่ละแห่งจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ในฟาร์มที่มีการจัดการที่ดี เวลาที่น้ำยาจะได้สัมผัสหัวนมในช่วงการจุ่มหัวนมก่อนรีดจะอยู่ในช่วงประมาณ 15-30 วินาที แต่ในฟาร์มโคนมทั่วไปน้ำยาจุ่มหัวนมจะมีโอกาสสัมผัสหัวนมมากกว่า 30 วินาที เนื่องจากฟาร์มส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเตรียมเต้านมนานกว่า 30 วินาที ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่าการใช้น้ำยา Tego 51  ที่ระดับความเข้มข้น 2% และ 4%  จะสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเต้านมอักเสบได้ในฟาร์มโคนมทั่วไป

 

------------------------------------