ReadyPlanet.com
dot
ผลิตภัณฑ์ของเรา THAIMEX CO.,LTD.
dot
dot
คุณภาพของผลิตภัณฑ์
dot
bulletเอกสารทางวิชาการ
dot
เคมีภัณฑ์
dot
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรค Ampholyt 51
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและขจัดกลิ่น Bescon P-A
dot
เครื่องพ่นสารเคมี
dot
bulletเครื่องพ่นหมอกควัน Swingfog
bulletเครื่องพ่นฝอยละออง ULV Fontan
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองแบบติดตั้งรถยนต์ Fontan Mobilstar-E
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองระบบไฟฟ้า Bio jet
bulletหัวพ่นน้ำยา Bio spray
dot
เครื่องมือวัด
dot
bulletเครื่องวัดความหนาสี DeFelsko, USA
bulletเครื่องวัดความหนาสี Phynix, Germany
bulletเครื่องวัดความเงาสี Zehntner, Switzerland
bulletเครื่องวัดความชื้น Doser, Germany
dot
วิธีการสั่งซื้อ
dot
bulletติดต่อสำนักงาน
bulletติดต่อพนักงานขาย
dot
รับสมัครงาน
dot
dot
สาระน่ารู้
dot
bulletTego 51 กับการผลิตยา และเครื่องสำอาง
bulletสุขวิทยาอนามัยของอุตสาหกรรมน้ำนม และผลิตภัณฑ์จากนม
bulletฟาร์มโคนม
bulletสุขวิทยาอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้ง
bulletอุตสาหกรรมผลิตอาหาร
bulletอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่ม
bulletไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
bulletอุตสาหกรรมอาหารทะเล
bulletคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทดสอบประสิทธิภาพการใช้ Ampholyt 51
bulletการใช้ Ampholyt 51 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหาโรคเต้านมอักเสบ
bulletการใช้Ampholyt 51 ช่วยลดการเหี่ยวและเน่าเปื่อยของผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์
bulletสหกรณ์การเกษตรคุ้มเจริญ
bullet โรคไข้หวัดนก
bullet โรคไข้หวัดใหญ่




อุตสาหกรรมอาหารทะเล

 

การเลือกใช้สารฆ่าเชื้อโรคที่ถูกต้อง

                                                                             เพื่อ                 

สุขลักษณะที่เหมาะสมและได้มาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเล

 

การปฏิบัติในการผลิตอาหารเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี (Good Manufacturing Practice G.M.P) เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปทั้งภายในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะการส่งออกอาหารทะเลเช่น กุ้ง ปลา ปู ฯลฯ  จะต้องมีการปฎิบัติที่ดีเพื่อให้อาหารทะเลได้มาตรฐานตาม G.M.P และมีคุณภาพดีเมื่อส่งออกไปต่างประเทศเป็นที่ยอมรับ และได้ความนิยมจากผู้บริโภค ถ้าอาหารทะเลส่งออกไม่ได้คุณภาพ ประเทศผู้ซื้อส่งกลับมายังผู้ผลิตภายในประเทศ ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ

 

            อาหารทะเลที่ไม่ได้คุณภาพมีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนทำให้ผู้บริโภคเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหารส่วนใหญ่ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอุจจาระร่วง เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้แก่ Vibrio Parahaemolyticus, Clostridium Botulinum, Staphylococcus aureus, Salmonella, Shigella,

Escherichia Coli อาหารทะเลอาจปะปนเชื้อดังกล่าวจากน้ำทะเลที่มีการปนเปื้อนน้ำเสียที่เกิดจากบ้านเรือนและชุมชน หรืออาจปนเปื้อนเชื้อโรคในกระบวนการผลิตโดยการติดเชื้อจากการปฏิบัติงานของพนักงานหรือโรงงาน

ผลิตที่ไม่สะอาดไม่ได้มาตรฐานและไม่ถูกสุขลักษณะ

                                               

ปัจจุบันมีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตอาหารคือ การฉายรังสี (Radiation) เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และทำให้ปริมาณจุลินทรีย์ในอาหารลดลง กรณีที่มีปริมาณจุลินทรีย์สูงมากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ขอฝากพิจารณาข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ด้วยวิธีการฉายรังสี ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขที่ปลายเหตุคือ เพียงต้องการเพื่อลดปริมาณจุลินทรีย์ในอาหาร เมื่อพบว่าอาหารมีเชื้อจุลินทรีย์ในปริมาณเกินกว่าที่จะยอมรับได้การฉายรังสีอาหารมีความจำเป็นเมื่ออาหารนั้นกำลังอยู่ในระยะที่จุลินทรีย์เริ่มทำลายคุณภาพอาหาร ทำให้อาหารมีคุณภาพต่ำและขายไม่ได้ราคา ค่าใช้จ่ายในการฉายรังสีอาหารมีราคาแพงรวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อขนส่งอาหารไปโรงงานฉายรังสี และนำกลับมาหลังจากฉายรังสีเสร็จ ดังนั้นการฉายรังสีอาหารจึงเป็นการปฎิบัติเพื่อแก้ไขที่ปลายเหตุ ไม่ใช่วิธีที่จะปรับปรุงเพิ่มคุณภาพอาหารแต่อย่างใด เป็นวิธีที่ช่วยลดปริมาณจุลินทรีย์ในอาหาร เพื่อให้ขายได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามมีหลายประเทศที่ไม่ยอมรับและนำเข้าอาหารฉายรังสี เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ดั้งนั้นวิธีการป้องกันไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์ปะปนในอาหารทะเลเป็นวิธีดีที่สุดที่ทำให้อาหารทะเลมีคุณภาพดี โดยธรรมชาติสัตว์ทะเลที่จับมาเป็นอาหาร เมื่อจับได้ใหม่ๆจะมีปริมาณจุลินทรีย์ไม่สูงมากถือว่ามีความสะอาดต่อการบริโภคไม่มีอันตราย  เมื่อทิ้งไว้ระยะหนึ่งจุลินทรีย์จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกโดยการสัมผัสกับพื้นผิวที่ไม่สะอาด เช่น ห้องเก็บภาชนะบรรจุ การบรรทุกหรือขนส่งบนเรือ รวมทั้งการลอกเปลือก หรือตัดแต่งอาหารทะเล และได้รับการปนเปื้อนจากการปฏิบัติงานของพนักงาน ดังนั้นสุขวิทยาอนามัยรวมทั้งความสะอาดซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันการเน่าเสียของอาหารทะเลก่อนเวลาอันควร และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อาหารทะเลที่เน่าเสียนอกจากเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแล้วยังมีผลต่อความเสียหายของผู้ประกอบการหรือผู้ผลิต คือขายสินค้าไม่ได้นำไปสู่การขาดทุน  การขาดทุนไม่ได้หมายถึงการสูญเสียที่ขายสินค้าไม่ได้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสูญเสียชื่อเสียงและความไว้วางใจจากผู้ซื้อ ซึ่งนำไปสู่ปัญหา คือ ผู้ซื้ออาหารจากประเทศยุโรป ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกาไม่สั่งซื้อเพราะพบว่าอาหารทะเลไม่สะอาด และไม่ได้มาตรฐานของประเทศผู้ซื้อโดยข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้หมายความว่า ผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่มีปัญหา แต่ผู้ซื้อมักจะฝังใจในสิ่งที่ไม่ดีมากกว่าสิ่งที่ดี อาหารทะเลอาจจะมีปัญหาไม่ได้มาตรฐานเพียงหนึ่งครั้งในร้อยครั้งที่ส่งออก แต่ผู้ซื้อจำได้แม่นยำกับปัญหาเพียงหนึ่งครั้งที่เกิดขึ้น แต่ไม่เคยระลึกถึงอีก 99 ครั้งที่ส่งออกไปมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ดังนั้นสิ่งที่ควรปฏิบัติคือไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นแม้แต่เพียงครั้งเดียวเพื่อลูกค้าจะได้ไม่ฝังใจในสิ่งที่ไม่ดีของสินค้า ปัญหาที่ส่งผลให้อาหารทะเลไม่ได้คุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน มีสาเหตุที่สำคัญคือผู้ประกอบการผลิตอาหารทะเลไม่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนให้ได้มาตรฐานและได้คุณภาพไปจนถึงผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่การจับ การเก็บรักษาอาหารทะเลให้สด ภาชนะบรรจุ การขนส่งไปยังโรงงานผลิต  ความสะอาดของโรงงานผลิต สุขวิทยาส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตจะต้องให้ความสำคัญทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้อาหารทะเลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานมีหลักปฏิบัติดังนี้

 

1.  อาหารทะเลที่จับขึ้นมาจากทะเลจะต้องเก็บรักษาให้สดที่สุดและมีคุณภาพอาหารเหลืออยู่มากที่สุดโดยเฉพาะประเทศในเขตร้อน การเก็บรักษาอาหารด้วยการแช่เย็นหรือแช่แข็งมีความจำเป็นและมีความสำคัญ เพื่อป้องกันการเน่าเสีย นอกจากนี้น้ำแข็งที่ใช่แช่อาหารต้องสะอาดปราศจากการปนเปื้อนจากเชื้อโรค

 

2.  การขนส่งอาหารทะเลไปโรงงานผลิตไม่เพียงแค่คำนึงถึงเวลาให้เร็วที่สุดเท่านั้น ความสะอาดของรถขนส่ง และตู้เก็บอาหารทะเลต้องหมั่นตรวจตราทำความสะอาดและทำการฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ในระหว่างการขนส่งจะต้องรักษาความเย็นให้คงที่ตลอดเวลา คืออุณหภูมิไม่ควรสูงกว่า 4 C พื่อป้องกันไม่ให้อาหารทะเลเน่าเสีย

 

3.  มาตรการรักษาความสะอาดของโรงงานผลิตจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง พื้นผิวต่างๆ ภาชนะบรรจุ เครื่องมือเครื่องใช้ที่สัมผัสกับอาหารต้องทำความสะอาด และมีการฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ

 

4.  อาหารทะเลที่ขนส่งมาถึงโรงงานจะต้องรีบนำเข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาคุณภาพอาหาร ดังนั้นความสะอาดในระหว่างกระบวนการผลิตมีความสำคัญเช่นเดียวกับวิธีการปฏิบัติตามมาตรฐานความสะอาด เพื่อให้ได้อาหารทะเลที่มีคุณภาพ

  

หลักการพื้นฐานกำหนดไว้ 6 ขั้นตอนคือ

1.  ขจัดคราบสกปรกที่หลงเหลืออยู่ตามพื้นโต๊ะปฏิบัติงาน สายพานลำเลียงโดยใช้น้ำฉีดออกก่อน

2.  ใช้ผงซักฟอกล้างเพื่อกำจัดคราบสกปรกที่เกาะแน่น และยังหลงเหลืออยู่จากขั้นตอนแรก

3.  ขัดถูหรือฉีดด้วยน้ำแรงดันสูงตามพื้นผิวที่ขรุขระ

4.  เลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมอาหารโดยการเช็ดถูหรือฉีดพ่น

5.  ทิ้งช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้น้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับพื้นผิวออกฤทธิ์ฆ่าเชื้ออย่างสมบูรณ์โดยทั่วไป

     ประมาณ 15-30 นาที

6.  ล้างน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง

 

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ เป็นของควบคู่กันและต้องดำเนินการไปด้วยกันอย่างสม่ำเสมอเป็น

ประจำ  การทำความสะอาดในโรงงานเพียงอย่างเดียวจะช่วยลดเชื้อจุลินทรีย์ได้ 90% ผู้ประกอบการบางราย

คิดว่าการทำความสะอาดเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อโรคอีก ความคิดเห็นของการสรุป

เช่นนี้ยังไม่ถูกต้อง  การปฏิบัติตามมาตรฐานความสะอาดและปลอดเชื้อ 6 ขั้นตอนดังกล่าวแล้วมีเป้าหมาย

เพื่อลดปริมาณจุลินทรีย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หมายความว่าในอาหารทะเลจะไม่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้

เกิดโรค และเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่จะไม่ทำลายคุณภาพอาหาร

 

การพิจาณาเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค

ปัจจุบันมีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหลายชนิด และมีความแตกต่างกันสำหรับอุตสหกรรมผลิตอาหาร เช่น

Quaternary, Ammonium Compound, Aldehyde, Phenols, Microbicidal Amphoteric Tego 51 น้ำยา

ฆ่าเชื้อโรคเหล่านี้มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคจะต้องพิจารณาคุณสมบัติ ดังนี้

 

1.       มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ทุกชนิด

2.       ไม่มีพิษ

3.       ไม่กัดกร่อนพื้นผิว

4.       มีความเป็นกลางของกรด - ด่าง

5.       ล้างออกด้วยน้ำได้ง่าย

6.       มีการสลายตัวตามธรรมชาติไม่มีสารตกค้าง

7.       บางสถานการณ์ต้องเป็นฟอง

8.       ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังคนและสัตว์

9.       มีคุณสมบัติในการชำระล้างทำความสะอาด

10.    เก็บไว้ได้นาน

11.    ไม่มีกลิ่น

12.    ไม่ทำลายรสชาติอาหาร

13.    ลดแรงตึงผิว

14.  และต้องมีราคาถูก

 

ในทางปฏิบัติคงจะไม่มีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีคุณสมบัติครบทั้ง 14 ข้อ แต่อาจจะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงที่สุด

                               

                บริษัท ที.เอช.โกลด์สมิดท์ ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ.1847 ประเทศเยอมันตะวันตก ได้ทุ่มเทค้นคว้าและ

วิจัยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมีชื่อว่า TEGO 51 เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อประเภท Microbicidal Amphoteric 

Disinfectant ใช้สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้อใช้กันแพร่หลายมากในประเทศยุโรป เมื่อเปรียบเทียบ

คุณสมบัติของ TEGO 51 กับคุณสมบัติทั้ง 14 ข้อดังกล่าวข้างต้นมีข้อสรุปดังนี้

 

1.    ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค               -              ดี

2.       ความเป็นพิษ                                                -              ดีมาก ไม่เป็นพิษ

3.       การกัดกร่อนพื้นผิว                                     -              ไม่มีการกัดกร่อนเหมือนกับน้ำธรรมดา

4.       ค่าความเป็นกลางของกรด - ด่าง              -              ดี เกือบเป็นกลาง

5.       ล้างออกด้วยน้ำ                                            -              ดี

6.       เป็นฟอง                                                        -              ดี

7.       ไม่กัดผิวหนัง                                                -              ดี

8.       คุณสมบัติการชำระล้าง                              -              ดี

9.       เก็บได้นาน                                                   -              ดีมาก เก็บได้นานกว่า 5 ปี แม้อุณหภูมิสูง

10.    กลิ่น                                                               -              ไม่มีกลิ่น แต่มีคุณสมบิติในการดับกลิ่น

11.    ไม่ทำลายรสชาติอาหาร                              -              ดีมาก

12.    การสลายตัวโดยธรรมชาติ                         -              ดีมาก สลายตัวโดยธรรมชาติไม่มีสารตกค้าง

13.    ลดแรงตึงผิว                                                 -              ดีมาก

14.    ราคาไม่แพง                                                  -              ดี เมื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติและ

                                                                                                ประโยชน์ รวมทั้งการใช้อย่างถูกต้อง

               

                ข้อสรุปดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการของบริษัท ที.เอช โกลด์สมิดท์ รวมทั้งการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญของหลายประเทศ ผลสรุปยืนยันว่า TEGO 51 เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับใช้กับอาหาร หรืออุตสาหกรรมผลิตอาหาร

  

 

 

การใช้   TEGO  51 สำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเล

                การฆ่าเชื้อโรคในกระบวนการผลิตรวมทั้งในโรงงานผลิตหลังจากผ่านขั้นตอนการล้างทำความสะอาด

ใช้สารละลาย TEGO 51 มีความเข้มข้น 1% (TEGO 51  1 ส่วน + น้ำ 99 ส่วน) ฉีดพ่นหรือเช็ดถูให้ชุ่มตามบริเวณพื้นผิวที่ต้องการฆ่าเชื้อ ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และสามารถดำเนินการผลิตได้ แต่ถ้าโรงงานทำงานเพียงรอบเดียว อาจปล่อยน้ำยาทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อป้องกันเชื้อโรคใหม่เข้าไปในโรงงาน วันรุ่งขึ้นก่อนลงมือปฏิบัติงานล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นวิธีการฆ่าเชื้อโรคที่สมบูรณ์ การติดเชื้อนอกจากเกิดจากพื้นผิวของภาชนะหรือสถานที่ปฏิบัติงานแล้ว ปัจจัยสองอย่างที่มีผลต่อการติดเชื้อในกระบวนการผลิตคือ

 

1.       การติดเชื้อจากบรรยากาศ  จากระบบการกรองอากาศของท่อส่งอากาศ การฆ่าเชื้อในระบบการกรองอากาศเป็นวิธีที่มีราคาแพง การฆ่าเชื้อในบรรยากาศที่ง่ายได้ผลและถูกกว่า คือการใช้ TEGO 51

       ฉีดพ่นเป็นละอองหมอกด้วยส่วนผสม 1-2%

 

2.       พนักงานผู้ปฏิบัติงาน  ผู้ปฏิบัติงานในโรงงานผลิตอาหารอาจเป็นพาหะของเชื้อโรคจึงต้องเข้มงวด

       กับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับความสะอาดและสุขวิทยาส่วนบุคคล ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการอบรม เรื่อง

       สุขวิทยาส่วนบุคคล และให้ความสำคัญกับความสะอาดเป็นพิเศษ ผู้บริหารโรงงานหรือผู้ประกอบ

       การต้องจัดหาอ่างล้างมือ และน้ำยาฆ่าเชื้อโรคให้กับผู้ปฏิบัติงาน บริเวณหน้าห้องน้ำ-ห้องส้วม โรง    

       อาหาร พนักงานทุกคนก่อนเข้าไปในโรงงาน ต้องล้างมือและฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและต้อง  

       กำหนดเป็นกฎเกณฑ์ของโรงงาน

 

โดยสรุปน้ำยาฆ่าเชื้อโรค TEGO 51 สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิดที่พบในโรงงานผลิตอาหาร เช่น แบคทีเรีย gram - ลบ, gram + บวก, ยีสต์ และรา ไม่เสื่อมสภาพเมื่อฆ่าเชื้อบนคราบโปรตีน น้ำเชื่อม ไขมัน และด้วยคุณสมบัติของการลดแรงตึงผิว ทำให้น้ำยาแทรกซึมเข้าไปตามรอยแตกหรือแยก  ผิวรูพรุน ซึ่งเชื้อโรคมักจะหลบซ่อนอยู่และปกติยากต่อการกำจัด นอกจากนี้ไม่มีฤทธิ์กัดผิวหนังและวัสดุอื่นๆ เช่น โลหะ แก้ว ยาง พลาสติก และ ไม้ ถ้าผู้ประกอบการปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวแล้วอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละครั้ง หรือทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนรอบการทำงาน เชื่อมั่นได้ว่าจะได้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐานของประเทศผู้ซื้อหรือผู้นำเข้า ไม่ว่าจะเป็นประเทศทางยุโรป เอเชีย หรืออเมริกา ผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลจะได้รับความนิยมทั้งผู้ที่สั่งซื้อไปจำหน่าย และได้รับความนิยมจากผู้บริโภค สร้างชื่อเสียงให้กับผู้ประกอบการหรือบริษัท ขอได้โปรดระลึกไว้เสมอว่า การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเป็นวิธีเดียวที่ป้องกันปัญหาอาหารทะเลส่งออกเน่าเสียและด้อยคุณภาพ

 

 

                             ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖

 

แปลและเรียบเรียงจากบทความของ ศาสตราจารย์ ดร. IR. J DEBEVERE ประเทศเบลเยี่ยม,

B. BAJOHR และ W. HILMES ประเทศเยอรมันตะวันตก                                                                                              

                                                                                                                                พูลศักดิ์ พุ่มวิเศษ MPH.

                                                                                                                                     พฤศจิกายน 2552