ReadyPlanet.com
dot
ผลิตภัณฑ์ของเรา THAIMEX CO.,LTD.
dot
dot
คุณภาพของผลิตภัณฑ์
dot
bulletเอกสารทางวิชาการ
dot
เคมีภัณฑ์
dot
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรค Ampholyt 51
bulletน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและขจัดกลิ่น Bescon P-A
dot
เครื่องพ่นสารเคมี
dot
bulletเครื่องพ่นหมอกควัน Swingfog
bulletเครื่องพ่นฝอยละออง ULV Fontan
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองแบบติดตั้งรถยนต์ Fontan Mobilstar-E
bulletเครื่องพ่นฝอยละอองระบบไฟฟ้า Bio jet
bulletหัวพ่นน้ำยา Bio spray
dot
เครื่องมือวัด
dot
bulletเครื่องวัดความหนาสี DeFelsko, USA
bulletเครื่องวัดความหนาสี Phynix, Germany
bulletเครื่องวัดความเงาสี Zehntner, Switzerland
bulletเครื่องวัดความชื้น Doser, Germany
dot
วิธีการสั่งซื้อ
dot
bulletติดต่อสำนักงาน
bulletติดต่อพนักงานขาย
dot
รับสมัครงาน
dot
dot
สาระน่ารู้
dot
bulletTego 51 กับการผลิตยา และเครื่องสำอาง
bulletสุขวิทยาอนามัยของอุตสาหกรรมน้ำนม และผลิตภัณฑ์จากนม
bulletฟาร์มโคนม
bulletสุขวิทยาอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้ง
bulletอุตสาหกรรมผลิตอาหาร
bulletอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่ม
bulletไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
bulletอุตสาหกรรมอาหารทะเล
bulletคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทดสอบประสิทธิภาพการใช้ Ampholyt 51
bulletการใช้ Ampholyt 51 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหาโรคเต้านมอักเสบ
bulletการใช้Ampholyt 51 ช่วยลดการเหี่ยวและเน่าเปื่อยของผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์
bulletสหกรณ์การเกษตรคุ้มเจริญ
bullet โรคไข้หวัดนก
bullet โรคไข้หวัดใหญ่




ฆ่าเชื้อโรคเพื่อสุขอนามัย article

เมื่อเสร็จจากการผลิตและเคลื่อนย้ายสินค้าออกไปแล้ว การทำความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำ เพราะจะช่วยลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในขณะนั้นได้ถึง 90% โดยจะถูกขจัดออกไปพร้อมกับเศษอาหารจำนวนเชื้อโรค 90% ที่ถูกขจัดออกไปนั้นดูเหมือนจะเป็นตัวเลขที่น่าพอใจจนทำให้รู้สึกได้ว่า เพียงแค่ทำความสะอาดก็น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งเป็นเหตุให้การฆ่าเชื้อไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป นับว่าเป็นข้อสรุปที่จะนำไปสู่ความผิดพลาดได้

ตัวอย่าง เชื้อจุลินทรีย์ 109 (หนึ่งพันล้านตัว) ถูกทำให้ลดลง 90% จะเหลือเชื้ออยู่ 108 (หนึ่งร้อยล้านตัว) ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนเชื้อโรคที่เหลืออยู่นี้ยังคงสามารถทำให้เกิดภาวะปนเปื้อนของเชื้อได้หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่ใกล้ตัวคือ เชื้อจุลินทรีย์ที่พบอยู่บริเวณพื้นดินทั่วไปประมาณ 106 (หนึ่งล้านตัว) ถ้าถูกทำให้ลดลง 90% จะยังคงมีเชื้อเหลืออยู่ 105 (หนึ่งแสนตัว) ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่ยังไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้การฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม

ที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ในขั้นตอนแรกต้องทำความสะอาดก่อนนั้น ควรจะลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์จากเดิมให้ได้ประมาณแสนเท่า (5 log step) แล้วจึงจะสามารถนำไปสู่ขั้นตอนอื่นต่อไป เพื่อทำให้จำนวนเชื้ออยู่ในระดับที่ยอมรับได้แต่ทั้งการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้บริเวณทั้งหมดที่ต้องสัมผัสอาหารอยู่ในสภาพไร้เชื้ออย่างสมบูรณ์ได้ และมาตราฐานของสุขอนามัยที่ดีที่สามารถยอมรับได้จะไม่ประสบผลสำเร็จได้ หากปราศจากการวางแผนเรื่องการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม หากย้อนกลับไปพิจารณาเรื่องของจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่ยังตกค้างอยู่หลังจากผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว จะเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มีจำหน่ายอยู่ทั้งหมดในขณะนี้ ยังไม่มีชนิดใดที่สามารถฆ่าเชื้อได้ทั้งหมดภายใต้การปฏิบัติงานจริง ส่วนที่จะสามารถลดจำนวนเชื้อลงได้ถึงศูนย์หรือไม่มีเลยนั้น จะเป็นไปได้เพียงในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่อาจคาดหวังในเรื่องของสภาพไร้เชื้อในการปฏิบัติงานจริงได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและไม่อาจเป็นจริงได้เลยสำหรับเป้าหมายหลังจากทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ก็เพื่อลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้เท่านั้นเอง กล่าวคือในการปฏิบัติงานจริงแล้วจะยอมให้มีเชื้อจุลินทรีย์ปะปนอยู่ได้ในระดับหนึ่งที่ไม่เป็นอันตราย คือไม่สามารถก่อให้เกิดโรคหรือทำให้อาหารเน่าเสียได้ ซึ่งจำนวนนี้ยังต้องอยู่ในปริมาณที่ยอมรับได้เช่นกัน

การปฏิบัติงานภายใต้สุขอนามัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอจะเกิดผลดีดังนี้คือ

  1. สามารถหลีกเลี่ยงการเน่าเสียของอาหาร ทำให้เก็บรักษาอาหารได้นานขึ้น
  2. ปกป้องผู้บริโภคให้พ้นจากปัญหาเรื่องสุขภาพอันมีสาเหตุจากอาหารที่เน่าเสีย
  3. ซึ่งถ้าประสบผลสำเร็จในสิ่งเหล่านี้แล้ว ไม่เพียงแต่ผลกำไรเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น แต่ยังรวมถึงเราจะได้อาหารที่สวยงาม น่ารับประทานมากขึ้น รสชาดดีขึ้น และยังเก็บไว้ได้นานขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้ส่งผลดีให้กับธุรกิจของท่านได้เปรียบกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน



ทำไมต้องฆ่าเชื้อโรค?